การเจาะพัฒนาบ่อน้ำบาดาล
ชนิดของเครื่องเจาะ
1. การเจาะแบบหัวตอก (Drived point)
2. ใช้ตอกได้เฉพาะในกรวดทรายหรือดินเท่านั้น ปริมาณน้ำที่เจาะได้พอเหมาะที่จะใช้เฉพาะในครัวเรือน การปลี่ยนแปลงของระดับน้ำบาดาล อาจจะกระทบกระเทือนต่อปริมาณน้ำที่สูบได้ เพราะ บางครั้งระดับน้ำอาจจะลดต่ำกว่าระดับตัวหัวตอก เครื่องเจาะแบบใช้น้ำพ่น (Jet Drilling Rig) เหมาะกับพื้นที่ที่เป็นกรวดทราย หรือแหล่งหินร่วนเท่านั้น หลักการของการเจาะแบบนี้คือการฉีดน้ำตามแนวดิ่งลงไปในดิน แรงดันของน้ำจะดันเอาดินส่วนที่ถูกฉีดให้แตก ไหลปนกับน้ำขึ้นสู่ผิวดิน น้ำที่ว่านี้เป็นน้ำที่ผสม Bentonite เรียกว่าน้ำโคลน ซึ่งจะช่วยนำเอา เศษตะกอนขึ้นมาและเป็นตัวฉาบผนังบ่อเพื่อป้องกันการพังของผนังบ่อ
3. เครื่องเจาะแบบกระแทก (Percussion rig หรือ Cable tool) สามารถเจาะได้ในหินทุกชนิดไม่ว่าแข็งหรืออ่อน แต่มีโอกาสที่บ่อจะเกิดการพังง่าย จึงควรใส่ท่อกันพัง
4. เครื่องเจาะแบบหมุนตรง (Direct Rotary Rig) หลักการคล้ายกับการเจาะแบบใช้พ่น แต่ใช้เครื่องจักรกลแรงคนและมีขนาดใหญ่มากกว่า
5. เครื่องเจาะหมุนแบบดูดกลับ (Reverse Rotary Rig) ดัดแปลงมาจากวิธีการของเครื่องเจาะหมุนตรง แต่ในวิธีนี้เราจะปล่อยน้ำไหลลงไปเองทางช่องว่างระหว่างผนังบ่อกับก้านเจาะ แล้วดูดน้ำโคลนพร้อมทั้งเศษหินเล็กๆ ไหลกลับลงไปในบ่อเก็บน้ำ เหมาะที่จะเจาะในชั้นหินร่วนหรือชั้นดินอ่อน สามารถเจาะได้บ่อขนาดใหญ่
6. เครื่องเจาะผสมแบบใช้น้ำและลม (Direct Rotary and Down the Hole Hammer) เป็นเครื่องเจาะที่สามารถสับเปลี่ยนวิธีการเจาะได้ตามความเหมาะสม ซึ่งการเจาะแบบใช้ลมเหมาะในการเจาะชั้นดินหรือชั้นหินแข็ง และการเจาะแบบใช้น้ำโคลนเหมาะในการเจาะชั้นดินหรือชั้นหินที่อ่อน และสามารถได้ทันทีเมื่อเจาะถึงชั้นที่ให้น้ำ
การพัฒนาบ่อ (Well Development)
เป็นงานขั้นสุดท้ายในกรทำบ่อก่อนที่จะสูบน้ำจากบ่อออกไปใช้ การพัฒนาบ่อมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้บ่อมีน้ำเพิ่มมากขึ้น ป้องกันไม่ให้ทรายเข้าบ่อ และทำให้อายุการใช้งานของบ่อมากขึ้น วิธีการพัฒนาบ่อมีดังนี้
1. วิธีการตักน้ำ (Bailing) คือการใช้กระบอกตักน้ำหย่อนบงไปตักน้ำถึงก้นบ่อขึ้นมาทิ้ง จะทำให้น้ำกระเพื่อมผ่านรูท่อกรองออกจากบ่อและเข้าบ่ออย่างแรง ทรายเม็ดละเอียดมากๆจะแขวนลอยอยู่ในน้ำ ส่วนเม็ดใหญ่จะตกตะกอนที่ก้นบ่อ ตักขึ้นทิ้งได้ต่อไป
2. วิธีการสูบน้ำ (Pumping) คือการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบ โดยต้องใส่ท่อดูดของเครื่องสูบลงไปประมาณกึ่งกลางของท่อเซาะร่อง และเริ่มสูบน้ำประมาณน้อยๆก่อนจนกว่าน้ำจะใส จึงเพิ่มความเร็วของเครื่องสูบ จนสูบน้ำได้ปริมาณสูงสุดเท่าที่เครื่องสูบจะสูบได้แล้วจึงหยุด ให้ระดับน้ำคืนตัวขึ้นมาอยู่ระดับเดิมแล้วจึงเริ่มสูบใหม่ การทำเช่นนี้จะทำให้เกิดการกวนน้ำในชั้นน้ำ ตะกอนละเอียดจะถูกดูดเข้ามาในบ่อและนำไปทิ้ง
3. วิธีการกวนน้ำ (Surging) โดยใช้ swab ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับลูกสูบใส่ลงไปในบ่อเหนือระดับท่อกรองแล้วดึงขึ้นลงเร็วๆ จะทำให้ทรายละเอียดไหลเข้าและออกจากบ่อ จากนั้นจึงตักน้ำปนทรายออกด้วยกระบอกตัก ทำไปเรื่อยๆจนกระทั่งไม่มีทรายเข้าบ่ออีก
4. วิธีการเป่าล้างด้วยลม โดยต่อท่อลม (Air Line) ลงไปในท่อสูบน้ำ (Drop Pipe) จนถึงปลายสุดของท่อกรอง แล้วจึงปล่อยลมซึ่งมีความดันสูงตั้งแต่ 100-125 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ลงไปในบ่อทางท่อลม จะทำให้ตะกอและทรายเม็ดเล็กรอบๆบ่อหลุดเข้ามาในบ่อแล้วจึงถูกดันขั้นข้างบนทางท่อจ่ายน้ำตลอดเวลาที่ลมยังมีแรงดันสูง
- งานเจาะสำรวจเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริเวณพื้นที่ภาคกลาง
- kickoff งานเจาะสำรวจเพื่อใช้ในการออกแบบโครงการงานปรับปรุงระบบท่อประธานและงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา สศป-33
- Kick off งานสำรวจเพื่อใช้ในการออกแบบโครงการงานปรับปรุงระบบท่อประธานและงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา สศป-33
- การทดสอบกำลังเฉือนโดยตรง และ การทดสอบกำลังรับแรงอัดแกนเดียว
- การสำรวจวัดสภาพต้านทานไฟฟ้าแบบ 2 มิติ